The Cradle of the World’s Billionaires Training
จัดอันดับมหาวิทยาลัยจุดเริ่มต้นความสำเร็จของอภิมหาเศรษฐีหมื่นล้านระดับโลก!
ตามรายงานของ Wealth-X, มีจำนวนเพียง 30% ของเหล่าบรรดาผู้ที่มีฐานะระดับสูงต้นๆของโลก ที่พวกเขาไม่ได้จบการศึกษาจากวิทยาลัย (College) เลยซึ่งเป็นส่วนน้อย และส่วนใหญ่พวกเขาได้เรียนจบแต่ในมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกอย่างมหาวิทยาลัย Harvard, Stanford, MIT Pennsylvania เป็นต้น
1. มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University, USA)
ฮาร์วาร์ด (Harvard) – คือหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและมีคุณค่ามากที่สุดในโลก, ทั้งยังติดลำดับรายชื่อมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดต้นๆ หลายปีซ้อนของโรงเรียนที่มีแต่มหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงเรียนด้วย ตามรายงานของ Wealth-X กว่า 134 คนรวยที่ได้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดังอย่าง Harvard University ได้แก่ Michael Bloomberg (CEO บลูมเบิร์กและอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก), Steve Ballmer (อดีต CEO ของ Microsoft) เป็นต้น สำหรับรายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ยของศิษย์เก่าเหล่านี้หลังจากจบการศึกษามาแล้ว 10 ปีที่ผ่านมานั้นพวกเขาทำเงินได้ที่ประมาณ $87,200 USD หรือ ประมาณ 3.1 ล้าน กว่าบาท
2.มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University, USA)
มหาวิทยาลัยลำดับที่สองคือ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, กว่า 67 อภิมหาเศรษฐีได้จบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ได้แก่ Charles R. Schwab ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัท The Charles Schwab Corporation, และ Phil Knight ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike. หลังจากจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ พวกเขามีรายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ยที่ $80,900 USD หรือประมาณ 2.9 ล้านบาท
3. มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania, USA)
มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ถือได้ว่าเป็นแหล่งกำเนินความสำเร็จด้านการศึกษาของเหล่าอภิมหาเศรษฐีหลังจากที่พวกเขาได้สำเร็จหลักสูตรปริญญาใน 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้โดยเฉลี่ยของพวกเขาอยู่ที่ $78,200 USD หรือประมาณ 2,815,200 บาท. บุคคลมีชื่อเสียงที่จบการศึกษาจาก University of Pennsylvania
ได้แก่ Steve Cohen ผู้ก่อตั้งบริษัท The Asset Management, Point72 financial และกองทุน Hedge Funds – SAC Capital, และอีกท่านคือ Donald Trump นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ ผู้ก่อตั้งทรัมป์เอนเตอร์เทนเมนต์รีสอร์ต
4. มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University, USA)
กว่า 43 อภิมหาเศรษฐีที่ได้สำเร็จการศึกษาจากที่นี้, โดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบียติด Rankings ใน 20 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกปี 2016. ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงได้แก่ S. Robson Walton ประธานห้างสรรพสินค้าชื่อดังของอเมริกา Walmart, อีกคนอย่าง Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนาน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์. หลังจากจบการศึกษาพวกเขามีรายได้โดยเฉลี่ย $72,900 USD หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท
5.MIT Massachusetts Institute of Technology
สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์หรือเรียกย่อๆ ว่า MIT ถูกจัดอันดับไว้ที่ 5 ของจำนวน 31 อภิมหาเศรษฐีที่จบจากที่นี้
ได้แก่ Charles Koch (CEO ของ Koch), และน้องชาย David Koch ผู้อำนวยการบริหารรองประธานาธิบดี Koch, พวกเขามีรายได้ประมาณ $91,600 USD หรือประมาณ 3.2 ล้านกว่าบาท
6. มหาวิทยาลัยคอร์เนล (Cornell University, USA)
มหาวิทยาลัยคอร์เนลแสดงให้เห็นว่าพวกเขาติดอันดับที่ 6 ในจำนวน 14 อภิมหาเศรษฐีที่สำเร็จการศึกษาจากคอร์เนล
ได้แก่ Stephen Friedman ประธานบริษัท Goldman Sachs วาณิชธนกิจที่ทรงอิทธิพลสูงในสหรัฐอเมริกา. ซึ่งเขามีรายได้ประมาณ $70,900 USD หรือประมาณ 2.6 ล้านกว่าบาท
7. มหาวิทยาลัยเยล (Yale University, USA)
มหาวิทยาลัยเยลถูกจัดลำดับเป็นที่ 7 โดยมีประมาณ 13 อภิมหาเศรษฐีที่ได้สำเร็จการศึกษาจากที่นี้ด้วยกัน
ได้แก่ James McNerney CEO ของ The Boeing Companyแ และ Henry Luce ผู้ก่อตั้ง Time magazine
8. มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California, USA)
มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ติดเป็นลำดับที่ 8, ซึ่งในปี 2014 ถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีอภิมหาเศรษฐีสำเร็จหลักสูตรปริญญาตรีมากที่สุดในโลก. โดยหลักจากจบการศึกษาที่นี้พวกเขาสามารถทำเงินได้ $66,100 USD หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท
9. มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University)
พรินซ์ตันเป็นชื่อที่คุ้นหูกันดี มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ซึ่งติดในลำดับต้นๆ การจัดอันดับ The Aacademic World
และยังเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีอภิมหาเศรษฐีจบจากที่นี้ด้วย. โดยพวกเขาสามารถทำเงินได้ $75,100 USD หรือประมาณ 2.7 ล้านบาท
10. มหาวิทยาลัยดาร์ตมัธ (University of Dartmouth)
มหาวิทยาลัยลำดับสุดท้ายของการจัดอันดับสถาบันการศึกษาที่มีมหาเศรษฐีเรียนมากที่สุดในโลก คือ มหาวิทยาลัยดาร์ตมัธ
ด้วย 10 อภิมหาเศรษฐี ได้สำเร็จการศึกษาจากที่นี้. โดยพวกเขาทำรายได้ที่ $67,100 USD หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท
ขอบคุณภาพและข้อมูลดีๆ จาก
Source credit: Studyingglobalinformation
นอกจากนี้ภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้น้องๆ ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากลในการสื่อสารทั่วโลก ใครที่อยากมีประสบการณ์การเรียนรู้ในต่างแดนไม่ว่าจะระยะสั้น – ระยะยาว สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ IEP